30 ธันวาคม, 2552

หลง & ลืม …?

เคยมั๊ย!? กับการลืมอะไรๆ ที่ตัวเองเคยมี เคยเป็น เคยได้ เคยจำ เคยรู้ และที่เคยๆ…ทั้งหลาย

ตัวข้าพเจ้าเองก็หละ เคยซะจนชิน At wits end

  • จำภาษาพื้นเมือง(ภาษาล้านนา: ตั๋วเมือง) ที่เคยเรียนไม่ได้เลย จำไม่ได้ว่ามันเขียนอย่างไร อ่านไม่ออก บอกไม่ได้ว่าตัว(อักษร)นั้นๆ มันคือตัวอะไร …ไม่รู้มันเป็นอะไร จำไม่ได้จริงๆ หน่วยความจำในสมองคงจะถูกลบเลือนไปหมดแล้ว
  • เคยจำชื่อเพื่อนร่วมงาน ที่ทำงานร่วมกัน(ทุกวัน) ไม่ได้ …เอ๊! มันชื่ออะไรว๊า นึ๊กเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก!
  • เข้าไปในตึก ในสถานที่กว้างๆ มีห้องหับ ทางเดินตัดกันมากมาย แล้วจำทิศ(หลงทิศ) ไม่ได้ซะงั้น
  • นอนกลางวัน แล้วสะลืมสะลือ …ตื่นขึ้นมาตอนเย็นๆ จำไมได้ว่า นี่มันตอนเช้าหรือตอนเย็นหว่า แล้วทึกทักเอาว่า นี่วันวันใหม่แน่ๆ
  • เล่นโปรแกรมนั่น นี่ไม่ได้ เพราะลืม (ไม่ได้ใช้มานานแล้วก่ะ)
  • จำวันไม่ได้ …นี่บ่อยนัก
  • จำไม่ได้ว่า (เพิ่งนึกออก) ว่าเรายังมี Blog อยู่อีกหลายที่Waiting

ก็มันลืมหนะเพ่Rolling Eyesก็ว่ากันไปครับ!! มีเรื่องมากมาย ที่เรารับรู้ในวันหนึ่งๆ ดังนั้น หากจัดลำดับไม่ดี มันก็คงจะสับสนปนเปกันไปหมด เช่นความจำ เรื่องใหม่ทับเรื่องเก่า เรื่องเก่าๆ ไม่เคยจะเอามาเล่าใหม่ พอนานๆ เข้า ก็ลืมหนะสิครับ และอีกสาเหตุ อาจจะเนื่องมาจาก “อัลไซเมอร์” เริ่มเข้าสิง …อะจึย์! น่ากลัวชะมัด!

เช่นกัน วันนี้ผมเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ผมเคยมีบล็อก(Blog) อยู่ชื่อหนึ่ง : http://alltrulyfree.blogspot.com ทำขึ้นมาเพื่อทดลองทำ

Google AdSense ซึ่งหลังจากที่ทำมาแล้ว ก็ปรากฏว่า ประสบผลสำเร็จในเบื้องต้นนิดหนึ่ง Blog อยู่ในอันดับของผลการค้นที่ 2 (Google PageRank) และได้รับเมล์จาก Google ว่าจะส่ง พินโค๊ดมาให้ ก็รอๆ แต่ไม่มา ก็เลยไม่ได้ทำอะไรต่ออีกเลย ทิ้งไว้เสียอย่างงั้น

อ่า นึกไปนึกมา …มันยังมีอีกน๊ะ เช่นที่

Thinkingอือ ยิ่งหายิ่งเจอแฮะ คงจะพอแค่นี้แหละครับ อาจจะต้องไปลบบางบล็อกที่ไม่ได้ทำอะไรแล้วหละ แค่นี้ก็ยุ่งจะแย่อยู่แล้ว มากไปก็มากความ …ก็อย่างว่าหละครับ เพราะความอยากรู้โดยแท้(โทษความอยากอีก) อยากรู้อยากเห็น ก็เลยต้องลองๆ ทำดู แหมตอนแรกๆ ก็ก็ขยันทำอยู่หรอก เพราะไฟแรงนี่เน๊าะ นานๆ เข้าไฟมันก็ชักมอด (เฮ้อเศร้าใจ)

Nerdแล้วคงต้องหาอะไรให้สมองมันเฟรซซี่ๆ บ้างแล้วหละ เคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์เล่มหนึ่ง เค้าบอกไว้ดีว่า “อยากจะให้สมองปรอดโปร่ง ต้องลองทำอะไรที่มันแปลก แตกต่าง จากที่เคยๆ ซะมั่ง เช่น เคยแปรงฟันด้วยมือขวา …ลองเปลี่ยนไปแปรงด้วยมือซ้ายทีซิ เคยขับรถไปทำงานกับเส้นทางเดิมๆ …ไหนลองเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น ทีมันไปถึงได้เหมือนกันดูหน่อยเป็นไร ลองทำอะไรๆ ที่ไม่เคยทำดูมั่ง …แล้วมันจะทำให้สมองของเราได้รีเฟรซ เหมือนเรากดปุ่ม F5 เลยหละครับ”

Day dreamingอืม ก็น่าสนน๊ะ ลองทำดูหน่อยเป็นไร จะได้เลื่อนเวลา อัลไซเมอร์ ถามหาได้นานขึ้นได้มั่ง!!!

 

แท็กของ Technorati: {กลุ่มแท็ก}

28 ธันวาคม, 2552

โพสต์เนื้อหา FC2 Blog ง่ายๆ ด้วย Windows Live Writer

ผมเคยพูดเรื่องของบล็อก ไว้เมื่อคราก่อน ซึ่งเป็นบล็อกสัญชาติญี่ปุ่นที่น่าสนใจที่หนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้สามารถใช้กับภาษาไทยได้อย่างดีทีเดียว เราอาจจะใช้เป็นบล็อกหลัก บล็อกรอง บล็อกทดลอง บล็อกหาเงินก็น่าสน! เพราะสามารถใช้กับโฆษณาอย่าง Adsense ของ Google ได้ด้วย
ตอนนี้ผมทดลองใช้มาได้ซักระยะหนึ่ง ก็บอกได้เลยว่าใช้ได้ดีทีเดียว ไม่มีปัญหาใดๆ อาจจะขลุกขลักบ้างในตอนต้นๆ แต่ก็ไม่ยากเลยที่เราจะเรียนรู้ ใช้ไปนานวันเข้าก็เกิดทักษะได้ครับ …และยิ่งมาเจอตัวช่วยที่น่าจะสามารถช่วยให้เราเขียนบล็อกได้ง่าย และสะดวกขึ้น ก็พูดได้เต็มปากได้ว่า แบบนี้แหละ “ใช่เลย”
เอาหละทีนี้มาดูกันว่า จะเขียนเจ้าบล็อก FC2 อย่างไรให้ง่ายๆ ด้วยตัวช่วยที่เราคุ้นเคยกันดี ด้วยชื่อที่เป็นที่รู้จักของใครๆ Windows Live Writer อย่างไงหละครับ
ปกติแล้วเราก็จะใช้เจ้า Windows Live Writer ช่วยโพสต์เนื้อหาที่เราเขียนขึ้นสู่บล็อก โดยที่เราไม่จำเป็นต้องล็อกอินเข้าสู่ระบบของบล็อกที่เราใช้บริการอยู่ หรือสามารถเขียนและเซพเป็นไฟล์แบบร่าง(Save Draft) เก็บไว้ ตอนออฟไลน์ และเมื่อไรเราออนไลน์เราก็สามารถส่งบทความขึ้นสู่บล็อกที่เราใช้บริการได้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานที่ง่าย เหมือนกับเราใช้งานโปรแกรมจำพวก Word Proceccer ทั้งหลายแหล่ เช่น การจัดการข้อความ ปรับแต่ง จัดตำแหน่ง ใส่สี เพิ่ม-ลดขนาด ใส่สไตล์ แทรกรูป แทรกตาราง แผนที่ วิดีโอ และอีกต่างๆ นานา สามารถทำได้ง่ายๆ ทำอย่างไร เห็นอย่างไร ก็เป็นอย่างที่เห็น ซึ่งน่าจะเรียกว่าเป็นโปรแกรมประเภท What you see is what you get (หรือ WYSIWYG) ก็ว่าได้
ก่อนอื่นต้องทำให้เจ้า Windows Live Writer รู้จัก FC2 Blog ของเราก่อน ตามวิธีการดังนี้…
  1. เปิด Windows Live Writer คลิกเมนู บล็อก->เพิ่มบัญชีบล็อก
    image
  2. ให้ระบุว่าเราใช้บริการจากบล็อกเจ้าใด
    image

    …ในที่นี้ของเราเป็น FC2 Blog ให้เลือกเป็น บริการบล็อกอื่น และคลิกปุ่ม ถัดไป
  3. จากนั้นจะให้เราระบุ เว็บแอดเดรส(Blog URL ของ FC2 Blog ที่เราได้มา) ชื่อผู้ใช้(user name ;ชื่อที่เราใช้ในบล็อก) และรหัสผ่าน(password)
    image

    * ชื่อผู้ใช้ คือ E-mail Address ที่ใช้สมัครนะครับ
     คลิกที่ [ ] จำรหัสผ่านของฉัน ด้วยก็ได้ครับ …และคลิกปุ่ม ถัดไป
  4. จากนั้นโปรแกรมจะวิเคราะห์ และตั้งค่าบล็อกของเรา …รอแปร๊บเดียว
    image

    แต่ปรากฏว่า มันไม่สามารถตรวจสอบการตั้งค่าบล็อกอัติโนมัติได้ จึงให้เราระบุประเภทบล็อกให้ ดังรูป
  5. ให้เลือกประเภทเป็น : Movable Type
    URL การประกาศระยะไกลสำหรับบล็อก ระบุค่าเป็น : http://blog.fc2.com/xmlrpc.php
    image
    และคลิกปุ่ม ถัดไป จากนั้นโปรแกรมจะทำการตรวจสอบ และตั้งค่าบล็อกของเราอีกครั้ง จนสำเร็จ
  6. จะแสดงข้อความให้เราทราบ พร้อมชื่อบล็อกของเรา …หากเราต้องการจะเปลี่ยนชื่อที่ใช้เรียกบล็อกเป็นชื่ออื่น ก็สามารถเปลี่ยนได้เวลานั้น ดังรูป
    image 
  7. จากนั้น คลิกปุ่ม เสร็จสิ้น …เป็นอันเสร็จสิ้นจริงๆ แล้วครับ Bug
Oh go onทีนี้ก็ถึงเวลาบรรเลงเพลงเขียนบล็อกให้มันไปเลย …ไม่ต้องล็อกอินเข้าบล็อกก็สามารถส่งบทความขึ้น FC2 Blog ได้ง่ายๆ แถมไม่ต้องกังวลเรื่องการแทรกภาพในบทความด้วย เพราะแค่แทรกภาพจากเมนู แทรก หรือจะก๊อปปี้ แล้ววางภาพ ลงในเอกสารในโปรแกรม Windows Live Writer ก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องอัพโหลดภาพไปก่อนแล้วค่อยแทรกทีหลัง …แหม่สะดวกอย่างนี้ แล้วยังจะใช้วิธีการดังเดิมอยู่อีกหรือ???
แหล่งข้อมูล : http://takanon003.blog98.fc2.com/
แท็กของ Technorati: {กลุ่มแท็ก}

10 ธันวาคม, 2552

เปลี่ยนเทมเพลต Blogger อย่างไร?

หลังจากที่ได้ทำการเปลี่ยนเทมเพลตมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นเคยเปลี่ยนมาแล้ว(ที่ใช้จริงจัง) ประมาณ 3 ครั้ง ตั้งแต่ทำบล็อกมา และล่าสุดครั้งนี้ …เปลี่ยนแต่ละครั้ง เราก็ได้ความรู้(เพิ่ม) แตกต่างกันไป และครั้งนี้ก็เช่นกัน ก็เลยมีเรื่องมาบอกเล่าสู่กัน
ปกติแล้วเทมเพลตของบล็อกที่เราใช้อยู่ จะเป็นไปตามแบบเริ่มแรกที่ Blogger ให้เราเลือก หลังจากที่เราสมัครใช้บริการสร้างบล็อกเสร็จ แต่หากว่าเราใช้มาได้ระยะเวลาหนึ่ง เกิดอาการอยากเปลี่ยนลุคเป็นแบบอื่นดูบ้าง ก็เป็นเรื่องง่ายๆ เช่นกัน แค่…
หลังจากเราล็อกอินเข้าสู่ระบบแล้ว
  • คลิกที่เมนู รูปแบบ และคลิก เลือกแม่แบบใหม่
    ก็จะมีเทมเพลตของ Blogger เอง ให้เลือกแบบต่างๆ ประมาณ 38 แบบ
    เทมเพลตของ Blogger
  • จากนั้นคลิกเลือก ชื่อเทมเพลต(แม่แบบ) ที่ต้องการ
    ...สามารถดูตัวอย่างได้ โดยคลิกที่ แสดงตัวอย่างแม่แบบ (ก่อนที่จะตกลง)
  • คลิกปุ่ม image เพื่อเลือกแบบที่เราเลือกไว้
  • เสร็จแล้วจะปรากฏข้อความ image
    จะลองคลิก ดูบล็อก เพื่อดูรูปแบบของเทมเพลตใหม่ที่เราเปลี่ยนก็ได้นะครับ
Shame on youแต่ถ้าเราไม่พอใจกับรูปแบบเทมเพลตพื้นๆ ของ Blogger เราก็สามารถไปดาวน์โหลดแบบอื่นๆ ที่น่าสนใจจากอินเทอร์เน็ตได้ครับ เช่น ที่ต่อไปนี้
จาก : http://mashable.com/
และจากที่ที่ให้ดาวน์โหลดฟรี และเสียเงินอีกมากมาย …สามารถค้นหาได้จากอินเทอร์เน็ต โดยอาจจะใช้คำค้น (Keyword) ว่า Free Blogger Template ซึ่งมีเยอะแยะมากมายจริงๆ ครับ
หลังจากที่เราได้ดาวน์โหลดมาแล้ว เราก็จะได้ไฟล์ที่เป็น .zip มา ให้ทำการขยายไฟล์ลงในโฟลเดอร์ในชื่อเดียวกัน และเข้าไปดูในโฟลเดอร์นั้นๆ เราก็จะพบไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .xml และไฟล์ readme.txt(คำอธิบายการติดตั้ง) อีกหนึ่งไฟล์ แต่ถ้ามามากกว่านั้น อาจจะเป็นไฟล์ภาพ(ที่เป็นส่วนประกอบของเทมเพลต ซึ่งเราสามารถแก้ไขภายหลังได้) ทีนี้วิธีการที่จะนำเทมเพลตนั้นๆ มาใช้ทำอย่างไร? ก็มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ครับ
หมายเหตุ:ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนเทมเพลต ที่ดาวน์โหลดมาจากที่อื่น ให้ทำการบันทึกโค๊ดของบรรดา ส่วนประกอบต่างๆ ที่เราเพิ่มเข้าไปทีหลัง เช่น นับสถิติคนเข้าบล็อก นาฬิกา แชทบ็อก หรือวิดเจ็ต (Widget)ต่างๆ ไว้ ไม่เช่นนั้นแล้ว ..สิ่งที่เราอุตส่าห์เสียเวลาเพิ่มเข้าไป อาจหายไปหมดสิ้น วิธีง่ายๆ คือ เซฟเป็นเท็กซ์ไฟล์ไว้ใน Notepad ครับ …แล้วค่อยไปเพิ่มภายหลัง หลังจากที่เราเปลี่ยนเทมเพลตไปแล้ว
แต่ก็วิธีที่เปลี่ยนเทมเพลตแล้ว Widget เดิมที่เราเพิ่มไปแล้วยังอยู่ครบนะครับ ลองไปหาอ่านวิธีทำจากตรงนี้ครับ : ติดตั้งเทมเพลตใหม่โดยที่ widget เดิมยังอยู่
...ส่วนผมก็อาศัยวิธีแบบดั้งเดิมนั่นหละ เซฟโค๊ดของแต่ละอันเก็บไว้ใน Notepad แล้วไปเพิ่มทีหลัง เพราะอย่างไรเสีย เปลี่ยนเทมเพลตใหม่แล้ว เราก็ต้องมาจัดองค์ประกอบต่างๆ ใหม่ให้มันเข้าทีเข้าทางในที่ที่มันควรจะอยู่ อยู่ดีหละครับ
หลังจากเราล็อกอินเข้าสู่ระบบแล้ว
  • คลิกที่เมนู รูปแบบ และคลิก แก้ไข HTML
  • มีคำเตือนว่า ก่อนที่จะแก้ไขแม่แบบ เราต้องบันทึกสำเนาแม่แบบเดิมไว้ก่อน ..กันเหนียว โดยคลิกที่ ดาวน์โหลดแม่แบบฉบับเต็ม ซึ่งไฟล์ที่เราบันทึกไว้จะมีชื่อ template-xxxxxxxxxxxxxxxxxxx.xml คล้ายๆ นี้
  • จากนั้นคลิกที่ปุ่ม เลือกไฟล์ ให้เราไปเลือกไฟล์เทมเพลต .xml (ที่ไปดาวน์โหลดมา) และ
  • คลิกที่ปุ่ม อัปโหลด …จากนั้นจะมีข้อความเตือนว่า “โปรดยืนยันว่าจะลบเครื่องมือต่อไปนี้ ข้อมูลการปรับแต่งเครื่องมือทั้งหมดจะสูญหายไป”
  • ถ้าเรามั่นใจแล้ว ก็คลิกปุ่ม ยืนยันและบันทึก ได้เลยครับ
  • หลังจากนั้น ก้มีข้อความบอกว่า การเปลี่ยนแปลงของคุณถูกบันทึกแล้ว ดูบล็อก 
    เราสามารถคลิกดูผลงานได้ครับ ว่าหน้าตาที่เปลี่ยนไปแล้ว จะเป็นเช่นไร
Peace Signนี่ก็เป็นวิธีง่ายๆ ในการเปลี่ยนเทมเพลตใหม่ หากเปลี่ยนแล้ว มีบางส่วนที่เรายังไม่พอใจ เราสามารถทำการแก้ไขได้ …อ่า ส่วนนี้เอาไว้ผมจะมาเล่าต่อวันหลังนะครับ ขอจบเพียงแค่นี้ก่อน สวัสดีครับ
แท็กของ Technorati: {กลุ่มแท็ก}

02 ธันวาคม, 2552

อยู่ในช่วงปรับปรุงธีม

กำลังจะเปลี่ยนธีมใหม่ …!!!

หาเวลามาแก้ยังไม่สำเร็จ …

…ช่วงเวลานี้ก็เลย รอ รอ …

Praying

9:12:2552 (มาเขียนต่อ)

เปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้วครับ และแก้ไขไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วด้วย…

หน้าตาก็ออกมา(ดูดี) อย่างที่เห็นนี่เลย 55

จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่า เปลี่ยน “เทมเพลต” น่าจะถูก แต่นั่นแหละเรามักจะเรียกรวมระหว่าง “ธีม” และ เทมเพลตว่าเป็นอันเดียวกัน โดยความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่า แรกเริ่มเดิมทีมันน่าจะเป็นคนละคำกัน เพราะความหมายต่างกัน

ถ้าเปรียบ ธีม กับ เทมเพลต เป็นคนคนหนึ่ง ธีมกับเทมเพลต ก็น่าจะต่างกันแบบนี้

  • เทมเพลต(Template) ก็คงจะเหมือนกับเค้าโครง-รูปร่างหน้าตา คือลักษณะสัณฐานอย่างไร สูง ใหญ่ ต่ำ กลม ฯลฯ
  • ธีม(Theme) ก็น่าจะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยของคนคนนั้น(ซึ่งมีเค้าโครง สูง-ต่ำแบบนั้น) ซึ่งอาจจะมีสีผิวขาว ดำ ผมสีทอง ดำ ตาสีน้ำตาล ดำ ฟ้า ฯลฯ

แต่ถ้าเว็บไซต์/บล็อก หละ…

  • เทมเพลต(Template) ก็คือเค้าโครงของของบล็อก หรืออาจจะเรียกว่าเลเอาท์(Layout) ก็ว่าได้ เช่น จะให้บล็อกมีหน้าตาเป็นแบบไหน มี 2 คอลัมน์ 3 คอลัมน์ อะไรแบบนี้ มีการจัดวางตำแหน่งของส่วนประกอบต่างๆ ของบล็อกอย่างไร ซ้าย ขวา บน ล่าง ฯลฯ
  • ธีม(Theme) หน้าตา สีสันของส่วนประกอบต่างๆ ในเทมเพลตอีกทีหนึ่ง เช่น จะให้บล็อกมีสีพื้นอย่างไร สีตัวหนังสืออย่างไร ขนาดตัวหนังสือใหญ่ ฤตัวเล็ก เส้นขอบอย่างไร? มีไหมฤปล่อยโล่ง สี-ภาพพื้นหลัง ของเนวิเกตต่างๆ ของบล็อก

Thinkingน่าจะเป็นลักษณะนี้ …แต่ว่าปัจจุบันถ้าเราเปลี่ยนเทมเพลต(ในกรณีที่เราโหลดมา) ก็จะได้รูปแบบของธีมพ่วงมาด้วย คือเทมเพลตแบบนี้ ธีมก็จะเป็นแบบนั้นตามไปด้วย ต่างเทมเพลตก็ต่างธีม ดังนั้นการใช้คำ ทั้ง 2 คำนี้ ก็เหมือนจะเป็นความหมายเดียวกันนะครับ …ฤใครคิดเป็นแบบอื่นบ้าง?

แท็กของ Technorati: {กลุ่มแท็ก}

29 พฤศจิกายน, 2552

พี่เลี้ยงช่วยทำ Blog ...ภาคภาษาอังกฤษ

พอดีว่าเข้าไปแก้ไข้บทความเก่าๆ ที่เคยโพสต์ไป (เพิ่มหมวดหมู่) เมื่อโพสต์เสร็จเหลือบไปเห็นเจ้าป้ายและข้อความแนะนำนี้เข้า
image

เลยลองคลิกเข้าไปดู โอว! ..เอ๋านี่มัน youtbe นี่ เดี๋ยวนี้ Blogger เค้าอธิบายเป็นวิดีโอแล้วเหรอ? อื่ม! ทันสมัยแฮะ! ลองไล่คลิกๆ ดู อืออ เข้าท่า เอามาลงดูเป็นตัวอย่างซะหน่อย เผื่อใครสนใจจะได้คลิกเข้าไปดูได้

เป็นวิดีโอแนะนำ สอนเกี่ยวกับการใช้ Blogger มีอยู่หลายบทด้วยกันครับ พูดเกี่ยวกับเรื่อง Blogger ทั้งหมดเลย

Day dreamingใครสนใจจะศึกษา Blogger ในรูปแบบดั้งเดิม(ภาษาอังกฤษ) ลองเข้าไปศึกษาดูได้นะครับ น่าสนใจทีเดียว

แท็กของ Technorati: {กลุ่มแท็ก},

13 พฤศจิกายน, 2552

เมื่อ Blog โหลดช้า ?!!

ปัญหาน่าเบื่ออันดับต้นๆ ของผู้อ่านบล็อก ข้อหนึ่งก็คือ Blog โหลดช้า …โคตระเต่า!

การโหลดหน้าของ Blog ได้ไว …ยิ่งสุดๆ ยิ่งดี ถือว่าเป็นสิ่งดึงดูดผู้คนให้หลงเข้ามาอ่านบล็อกของเราได้ดีอย่างหนึ่งทีเดียว ถ้าเมื่อไหร่หลงไปเปิดหน้า Blog ที่กำลังสนใจจะอ่าน แต่ดันเปิดเท่าไหร่ ก็ไม่วายจะโชว์หน้าให้เห็นซักที รีเฟรซแล้วรีเฟรซเล่า …ในที่สุดก็เบื่อ ไม่เอาดีกว่า ไปหาอ่านอะไรที่มันง่ายๆ กว่านี้เถอะ ผู้ชมส่วนใหญ่ก็คงจะคิดแบบนี้ (เดาเอาเองนะ แต่เชื่อเถอะ 100 ทั้งร้อย…)

เราในฐานะผู้ทำ Blog หวังอย่างยิ่งว่า Blog ของเราจะโหลดได้ไวปานสายฟ้าแลบ (อะไรจะขนาดนั้น?) เอาหละครับ มีทิปเล็กๆ มาเล่าสู่กันอ่าน โดยเฉพาะผู้ใช้ Blogspot ตามไปดูโล๊ด

การโพสต์

เค้าบอกมาว่า เวลาในการโหลด Blog ของเราได้รับผลกระทบจากจำนวนบทความที่เราแสดงในหน้า(แรก)หลักของ Blog เรา

คือ แสดงบทความหลายบทความในหน้าแรก ก็พาลให้ Blog เราโหลดช้าตามไปด้วย เราก็ไปทำการแก้ไขซะ โดย ลดจำนวนบทความที่แสดงหน้าหลักลง

จากการ ตั้งค่า | แท็บ การจัดรูปแบบ แล้วเราก็เลือกจำนวนบทความที่เราต้องการแสดงในหน้าหลัก (แนะนำให้แสดง 10 หรือน้อยกว่า ของผม 4 เอง)

image

 

Third Party JavaScript และลิงค์

สำหรับความเร็วในการโหลดที่ดีที่สุดของ Blog ขอแนะนำให้ใช้ Google/Blogger widgets(หรือ Gadget พื้นฐาน ของ Blogger เอง), JavaScipt และลิงค์

แต่หากเราต้องใช้บุคคลที่สาม(Third party)และ JavaScipt และ Link บล็อกของเราจะโหลดรวดเร็วขึ้น หากเราใส่ JavaScript ทั้งหมดที่ด้านล่างของ Blog ถ้าเราจะใส่ Third party JavaScipt และ Link ในแถบด้านข้าง(Sidebar) ของ Blog เรา ให้วางโค๊ดเหล่านั้นไว้ในที่ด้านล่างของแถบด้านข้าง(ประมาณว่าล่างสุดฯ)

image

หมายเหตุ : Third Party JavaScript (หรือ JavaScript บุคคลที่สาม) ในที่นี้คือ เป็น Gadget (แกดเจ็ต) ที่สามารถใช้ได้ใน Blogger แต่ Blogger ไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่อาจเกิดจากนักพัฒนา Gadget อย่างเราๆ ท่านๆ ที่มีความสามารถสร้าง(เขียน)ขึ้น

เมื่อเราสร้าง Gadget สำหรับ Blogger เสร็จ เราก็ส่ง Gadget ของเราให้กับ Blogger แกดเจ็ตนั้นจะปรากฏใน Blogger.com โดยอัตโนมัติ นักเขียนบล็อกนับล้านคนจะสามารถใช้ Gadget ของเราได้ ซึ่งผู้ใช้จะสามารถเลือกดู กำหนดค่า และเพิ่ม Gadget ของเราในแถบด้านข้างของ Blog ของตนเองได้

ภาพและสื่อ

เมื่อ Blog ของเรามีรูปภาพ วิดีโอ และสื่ออื่นๆ มากขึ้น เวลาในการโหลดบล็อกของเรา ก็จะนานมากขึ้นตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม รูปภาพและมัลติมีเดียอื่นๆ ก็มีความสำคัญ …ตรงที่ ช่วยดึงดูดผู้ชมให้เข้ามาในบล็อกของเรา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการโหลดภาพและสื่อของเรา และนี่ คือเคล็ดลับ…
image

  • ลดขนาดของภาพ หรือใช้ภาพแบบ thumbnails (ภาพขนาดย่อ) ที่ลิงค์ไปยังรูปภาพขนาดเต็ม
  • ถ้าเราใช้ภาพบุคคลที่สาม (คือภาพที่เราเอามาจากเว็บอื่นใด) แนะนำให้อัปโหลดไปยัง Picasa Web Albums ผ่านทาง Blogger post editor(โปรแกรมแก้ไข/โพสต์เนื้อหาใน Blogger)
  • ถ้าเรามีภาพจำนวนมากภาพที่จะแสดง เราก็อัปโหลดรูปภาพทั้งหมด ไปยัง Picasa Web Album (เพราะ Picasa เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ Blogger นั่นเอง) และทำลิงค์ไปยังอัลบั้มภายในบทความ หรือที่แถบ Sidebar

คำแนะนำอื่นๆ

  • ถ้าเราได้เพิ่มหรือกำหนด CSS ในบล็อก ให้แน่ใจว่า เราได้ใส่มันไว้ที่ด้านบนของหน้า
  • เนื้อหาที่สำคัญที่สุดของ Blog ที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน ควรจะโหลดเร็วที่สุด
    อยากรู้ว่า Blog ของเราจะใช้เวลาโหลดนานเท่าไหร่? Stopwatch (นาฬิกาจับเวลา) ช่วยได้…
    Alienเพื่อให้เราระบุได้ว่า ส่วนใดที่ใช้เวลาในการโหลดนานที่สุด เราสามารถใช้ Stopwatch จับเวลา
    ใช้นาฬิกาจับเวลา โดยป้อน URL บล็อกของเราลงในช่องข้อความและคลิก "Start StopWatch" นาฬิกาจับเวลาจะเปิดบล็อกของเราขึ้นในเฟรมและจะบันทึกเวลา ที่ทุกอย่างในบล็อกของเราโหลด รวมทั้งภาพ วิดีโอ Widgets ฯลฯ มันจะบันทึกรายการที่ใช้เวลาโหลดนานที่สุด เมื่อรู้แล้ว จากนั้นเราก็จัดการแก้ไขเสียให้เหมาะสม ตามคำแนะนำนี้…

Source : http://www.google.com/support/blogger/bin/answer.py?answer=42394

แท็กของ Technorati: {กลุ่มแท็ก}How can I make my blog load faster?

08 พฤศจิกายน, 2552

เรื่องของสไลด์แต่ง Blog

มีผู้ชมท่านหนึ่ง ถามเรื่องการทำสไลด์มา ว่าจะหากมีรูปเองแล้ว

…จะเอามาทำสไลด์ได้อย่างไร?

image

พอดีมีเวลาเข้ามาดู Blog เลยต้องรีบเขียนเป็นการด่วน ก็ขอตอบคร่าวๆ ละกันนะครับ

  • ถ้าใช้ Blogspot ก็สามารถเอาสไลด์ของบล็อกมาแปะในบล็อกได้เลย ลองไปอ่านตามบทความนี้นะครับ
    Slideshow! ...ของแต่ง Blog ชิ้นใหม่ใน Blogger แต่การจะเอารูปมาแสดงในสไลด์ได้ ต้องไปสมัครใช้บริการของบรรดา Web albums ทั้งหลายก่อน เช่น
    • Picasa Web Albums
    • Flickr
    • Photobucket
    • หรือ อื่นๆ

Oh go onแล้วอัพโหลดภาพขึ้นไปฝาก จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่เว็บแนะนำ และนำ URL Feed มาใส่ในขั้นตอน กำหนดค่าสไลด์โชว์ จากการเพิ่ม Gadget –> สไลด์โชว์ 

  • ไปสมัครเปิดใช้บริการกับ Web albums ต่างๆ โดยตรงเลย มีที่ไหนบ้าง ลองไปหาอ่านได้จากตรงนี้นะครับ…
    มาแต่ง Blog ด้วยสไลด์กัน ... จากนั้นอัพโหลดรูป แล้วเอาโค๊ดที่ได้มาแปะในบล็อกของเราได้เลย โดยไม่ต้องผ่าน การเพิ่ม Gadget ->สไลด์โชว์ ของ Blogspot เอง

Peace Signลองไปทำดูนะครับ …หากไม่ได้ หรือมีปัญหาอย่างไร แวะมาถามไถ่ได้ครับ

แท็กของ Technorati: {กลุ่มแท็ก}

07 กันยายน, 2552

ให้ลิงค์กับเขา …เรา ได้ลิงค์ตอบแทน

เกี่ยวกับเรื่อง Blog หลาย ๆ คน ชอบพูดเป็นคำเพราะๆ ว่า
“Content is a king” (อือ ก็ถูกนะ)
แต่ผมว่า น่าจะเพิ่มอีกหน่อยว่า ผู้อ่าน คือ “พระเจ้า” ด้วยนะครับ …เพราะอะไรหนะหรือ? คำตอบง่ายๆ ก็คือ หากไม่มีผู้อ่านแล้วไซร้ เราจะเขียน Blog ขึ้นมาเพื่ออะไรหละเนี่ย เขียนเพื่อให้ตัวเองอ่านเองเหรอ! ..ไปปั่นไดอะรี่ไม่ดีกว่าหรือ? (เขียนเอง แล้วอ่านเองนิ) แล้วก็ไม่ต้องประกาศให้ชาวบ้านรับรู้ด้วย (โหดๆ ไป)

แต่ถ้าคิดจะเขียนให้ผู้อื่นได้รับรู้ด้วย …ก็ต้องนึกถึงผู้อ่านก่อนเป็นอันดับต้นๆ นอกจากจะเขียนตามใจฉัน

กำลังจะบอกว่า เรื่องที่จะเขียนนี้ ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากผู้ชมเช่นกันครับ ที่เค้า(หลง)เข้ามาอ่าน แล้วเกิดมีอารมณ์ร่วม อยากลองภูมิ เอ๊ยไม่ใช่ มีข้อข้องใจอยากจะถาม และขอให้ช่วยแนะนำวิธีการทำให้? …ดังนี้ครับ

br กล่าวว่า...
ขอบคุนมากนะค่ะ
ช่วยได้เยอะมากทีเดียวเลยค่ะ
แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจในส่วนของลิงค์เลยค่ะ
เด่วถ้ามีปันหาไร จะขอถามหน่อยนะค่ะ^

…และ image จาก ShoutMix ครับ

ในเมื่อเค้า(ผู้อ่าน) ขอมา …จะช้าอยู่ใย ต้องรีบ(จัดให้)ตอบโดยไว ซึ่งก็คงจะเป็นเรื่องการทำลิงค์(Link) ไปยังเว็บ/บล็อกเพื่อนบ้าน หรือที่อื่นใดที่เราชื่นชอบ หรือเข้าไปเยี่ยมชมบ่อยๆ โดยหวังในใจลึกๆ ว่า “ให้ลิงค์กับเขา …ได้ลิงค์ตอบแทน” (ตามกฏแห่งกรรม มั่วไปนั่น) คุณว่ามั๊ย?

เอาหละ …หากไม่เชื่อ ก็ต้องลองทำดู วิธีการง่ายๆ ดังนี้เลย…

  1. ลงชื่อเข้าใช้ (Sign in) เข้าไปใน Blog ของตัวเอง
    clip_image002
  2. เมื่อลงชื่อเข้าใช้แล้ว ในรายการ Blog ของเราที่สร้างไว้ ให้คลิกที่หัวข้อ รูปแบบ
    .. และคลิก เพิ่ม Gadget ..ให้เพิ่มลงไปตรงส่วนด้าน ซ้าย ของบล็อก
  3. จากนั้นคลิก รายชื่อลิงค์ clip_image004
  4. ช่อง หัวข้อ พิมพ์คำว่า รายชื่อ Blog ของผองเพื่อน หรือชื่ออื่นๆ ที่ต้องการ
  5. หัวข้อ URL ของไซต์ใหม่ ..ให้ใส่ (URL) ที่อยู่ Blog ของเพื่อน หรือที่ต้องการลงไป
  6. จากนั้น คลิกปุ่ม เพิ่มลิงค์
  7. หากจะใส่ ลิงค์ที่อยู่ Blog ของเพื่อนคนต่อไป ...ให้ทำเช่นเดียวกับข้อ 5 – 6 เมื่อทำจนครบจำนวนแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม บันทึก
  8. จะกลับมาที่หน้า เพิ่มและจัดเรียงองค์ประกอบของหน้า เราจะเห็นว่าสิ่งที่เพิ่มลงไปจะไปอยู่ข้างบนสุดของด้านข้าง ให้ใช้เมาส์คลิกและลากไปไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม (พอใจ)
    และคลิกที่ปุ่ม clip_image006บันทึก อีกครั้ง
  9. เสร็จแล้ว หากต้องการดูสิ่งที่เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ให้คลิกที่ แสดงตัวอย่าง หรือ ดูบล็อก
    clip_image008 

หมายเหตุ : การทำลิงค์ออก ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งของการทำ Blog ด้วยครับ

ปล. ลองเพิ่มลิงค์ ไปที่ Blog เพื่อน หรือคนที่เรารู้จักก่อนก็ได้ครับ …แล้วบอกเค้าด้วย ว่าเราได้ทำลิงค์มาให้นะ แค่นี้เราก็ได้ใจแล้วครับ และก็หวังจริงๆ เลยว่า เดี๋ยวเค้าก็ทำลิงค์มาหาเรามั่งหละ (555 เป็นงั้น!)Hee hee

20 สิงหาคม, 2552

FC2 อีกหนึ่งทางเลือก กับ Adsense Blog

วันนี้มี Blog ที่น่าสนใจมาแนะนำให้ทราบ และน่าจะเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้ Blog หารายได้ทางอินเทอร์เน็ต ด้วย Blog …เขียนบล็อกด้วยเนื้อหาบทความ แล้วติดโฆษณาที่เกี่ยวข้อง (Contextual Ads) โดยเฉพาะ Google Adsense ที่มีคนใช้จำนวนมาก ซึ่งใช้บริการ Blog จากหลากหลายที่ โดยเฉพาะ  WordPress, Blogger ฯลฯ

และที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว …ตามไปดูกันครับ

image

Blog นี้มีชื่อว่า FC2 Blog ครับ เป็นผู้ให้บริการ Blog ทางฝั่งญี่ปุ่นโน่น (ตามกระแส J-Pop) จากภาพด้านบน จะเห็นว่ามีข้อดีมากมายเลยทีเดียว

และข้อดีอื่นๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น

  • มีพื้นที่ให้มากถึง 1 Gb
    image
  • ออกแบบ ตกแต่งตามใจชอบ มีปลั๊กอินส์ให้ใช้งานง่ายๆ    
  • มีเทมเพลต (Template) ให้เลือกใช้มากมายตั้ง 4,000 กว่าแบบ หากไม่พอใจก็สามารถแก้ไขเองได้ image
    โดยใช้ HTML และ CSS   
  • อัพโหลดไฟล์ ไปใช้ใน Blog หรือจะฝากไฟล์ได้
  • มีระบบป้องกัน สแปม
    image
  • เก็บข้อมูลเผื่อแบคอับ ด้วยการอิมพอร์ตนำเขา้และส่งออก
  • และอีกมากมาย (คลิกดูจากภาพด้านบน)

image

บล็อกนี้เป็นของญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะใช้ เพราะเราสามารถเลือกภาษาไทยได้ครับ และกับการที่สามารถแก้ไขเทมเพลตได้ถึงระดับ CSS ก็เป็นเรื่องง่ายที่เราจะวางโฆษณา และจัดหน้าตาต่างๆ ให้กับบล็อกได้

image

Winkingหากสนใจ ลองเข้าไปศึกษา และลองใช้ดูได้ครับ …น่าจะเป็นทางเลือกอีกที่หนึ่ง สำหรับการทำ Blog โดยเฉพาะ Google Adsense ได้ดีทีเดียว

เพิ่มเติม :

แท็กของ Technorati: {กลุ่มแท็ก},

19 สิงหาคม, 2552

อย่าแหย่เธอหละ เดี๋ยวเธอ …ฮื่ออ!!

ไปเจอของแปลกมา …เลยเอามาให้ยลกัน

Japan's favorite media idols and celebrities :

เป็นรูปหน้าตาของดารา นางแบบ คนมีชื่อเสียงของญี่ปุ่นเค้าหละครับ เป็นภาพเคลื่อนไหว ที่ไม่ธรรมดา

อยากรู้ว่า ไม่ธรรมดาอย่างไร …ก็ลองชมดูกันเลยครับ

แต่ว่าอย่าเอาเมาส์ไปแหย่เธอเข้าหละ …เดี๋ยว หุ หุ???

และอันสุดท้าย…(อะจึ๊ย์)

ดูเฉยๆ นะครับ อย่าทำอะไรหละCow

…ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูซิ!

สนใจจะเอาไปแปะ Blog เล่นๆ ก็ได้นะครับ

แท็กของ Technorati: {กลุ่มแท็ก}

Related Posts by LinkWithin

Related Posts with Thumbnails