31 สิงหาคม, 2550

คนไทยที่หนึ่งในโลก ...ทำโฆษณาเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย

การทำโฆษณาให้ประสบผล ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำโฆษณาไปแล้ว ลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้รับจริงๆ ได้เห็น ได้ชม ได้อ่าน ได้ยิน ได้สัมผัส (เอาให้ครบทุกได้เลย) และในที่สุดได้ลอง และได้ซื้อสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการนั้นๆ...

มาดูตัวอย่างกันว่า โฆษณาผลิตภัณฑ์หรือบริการอะไร ในอินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด ....???

อันแรก


เจ้าโฆษณาตัวนี้ มันรู้ด้วยแฮะ ...ว่าเรากำลังเล่น Blog อยู่


แน๊ะ!! ...ดูทีวีออนไลน์ ก็ไม่ได้

กำลังดู Photo Gallery อยู่ดีๆ ...ก็โผล่มาทักทายอีก

อุตส่าห์ จะแอบเล่นเกมซักหน่อย ยังรู้อีก! เออ ...แถมยังบอกเราอีกว่า งานแกหนะ สนุกเหมือนเกมเลย (จะสนุกจริงฤเปล่าน๊า! จะลองคลิกดูก็เกรงใจอยู่)

ตัวผมก็เขียนบล็อกด้วย Blogger อยู่ด้วยสิ ...อิตาโฆษณาตัวนี้ ก็ดันตามมาเตือนอีก "อย่ามัวแต่เล่น Blogger" กะจะให้เราเปลี่ยนไปทำงานพิเศษ ครับ (เอ๊! จะเอาดีมั๊ยเนี่ย ...ช่างใส่ใจ รู้ใจกันดีจังเลย)

แหะ แหะ! โฆษณาของเจ้าไหนก็ลองดูกันเอาเองหละกัน ครับ เดี๋ยวนี้เค้าก้าวหน้าครับ ...ไปทำ Adword กับ Google ด้วยหละ Ads By Google โชว์หราเลย

Technorati Tags:

30 สิงหาคม, 2550

ตัวช่วย ...ในการเขียนบทความ(โพสต์) ลง Blog

พูดถึงเรื่องต่างๆ มาก็มากแล้ว จนเกือบลืม จุดประสงค์หลักของ Blog ตัวเอง นั่นคือ "พูดถึง Blog แบบพื้นๆ ..และเรื่องไอทีทั่วไป" เวลานี้มันไม่ค่อยจะพื้นแล้วหละเนี่ย เนื้อหาชักจะเป็นวาร์ไรตี้ ไปทุกทีแล้ว

วันนี้จึงอยากย้อนกลับไปที่จุดหมายเดิม ...ขอพูดถึงเรื่องพื้นๆ ครับ

ในการเขียน Blog (เขียนเนื้อหาลงบล็อก) นั้น หากจะให้ดี ควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถหยิบฉวยมาใช้ได้ในยามจำเป็น จะช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น สิ่งที่ผมจะพูดถึง คือ Software โปรแกรมต่างๆ ...ซึ่งก็ไม่มากมายอะไร บางตัวมีอยู่แล้วในคอมพิวเตอร์ของเรา หรือถ้าไม่มีก็ติดตั้งเพิ่มเข้าไปได้

สำหรับผมแล้ว ตัวช่วยเขียน Blog ควรจะมีต่อไปนี้

  1. โปรแกรม Notepad
    มีอยู่แล้วในเครื่อง ...เป็นที่พักข้อความที่เราคัดลอกมา หรือใช้สำหรับแก้ข้อความง่ายๆ ที่ไม่ต้องมีรูปแบบใดๆ เช่น โค๊ด HTML, JavaSpript เป็นต้น
  2. โปรแกรมเขียนเว็บไซต์ ตกแต่งเว็บไซต์
    ซึ่งบางทีการแก้ไขบล็อกที่เกี่ยวกับ Html, Xml หรือโค๊ดอะไรต่างๆ เราอาจจะไม่มีความรู้ หรือรู้ไม่แจ่มแจ้งนัก เราก็ใช้โปรแกรมเหล่านี้ช่วย Generate (คือแปลงเป็นโค๊ดHtml หรือ ฯลฯ)โค๊ดให้โดยอัตโนมัติ เช่น เราจะสร้างตาราง เราก็เข้าโปรแกรมผวกนี้ สร้างง่ายๆ เหมือนกับที่เราทำใน Ms-Word เสร็จแล้วก็คัดลอกโค๊ด หรือไม่ก็คัดลอกตารางเลยก็ได้ มาวางใน Blog อีกทีหนึ่ง ตัวอย่างโปรแกรมเหล่านี้ เช่น โปรแกรม Macromedia Dreamweaver, Microsoft Frontpage, HomeSite หรือแล้วแต่จะสะดวกหามาใช้ได้
  3. โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ/แก้ไขภาพ
    สำหรับรูปภาพที่นำมาใช้ใน Blog อาจมีการปรับแต่งเบื้องต้นก่อนนำมาใช้ประกอบใน Blog เช่น ลดขนาดภาพ ปรับความละเอียดให้น้อยลง (ความละเอียดของภาพมาก จะมีผลกับการโหลดหน้าเว็บฯ อาจจะช้ามากขึ้น) ปรับโหมดสี หรือแก้ไข ปรับแต่งอย่างอื่น ก็ต้องอาศัยโปรแกรมเหล่านี้ช่วย ...ที่ขอแนะนำ ก็เช่น
    - Paint โปรแกรมวาดภาพ จัดการภาพแบบพื้นสุดสุด ใช้งานง่ายๆ แต่สามารถใช้ได้ในยามฉุกเฉิน
    - Adobe Photoshop จะเป็นรุ่นไหนก็ได้ ใช้ตกแต่งภาพเพื่อประกอบบล็อกที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง ปัจจุบันจะมีโปรแกรมแถมมาให้อีก 1 ตัว ชื่อว่า ImageReady ที่ใช้ตัดแบ่งภาพ สร้างปุ่ม สร้างภาพเคลื่อนไหวง่ายๆ
  4. โปรแกรมแปลภาษา/ดิกชันนารี่
    สำหรับทำบล็อกภาษาต่างประเทศ โปรแกรมเหล่านี้สามารถช่วยได้ในเบื้องต้น ...ที่ผมใช้อยู่ก็มี
    - โปรแกรมแปลอังกฤษเป็นไทย (Ms-Word ก็ช่วยได้)
    - โปรแกรมแปลไทยเป็นอังกฤษ ...อันนี้แล้วแต่จะหามาใช้ ครับ
  5. หรืออื่นๆ หากหามาได้

พื้นๆ ก็คงจะมีแค่นี้ครับ หากมีตัวช่วยเหล่านี้แล้ว เราก็บรรเลงเพลงเขียนบล็อกให้หายบ้า ได้เลยครับ (ถ้าไม่เขียน จะบ้า!! หะ หะ ...ล้อเล่น) ...ไม่รู้คุณผู้ชมใช้ตัวช่วยอะไรบ้าง ใครมีของดีกว่านี้ ก็แนะนำกันได้นะครับ ไม่คิดตังค์ครับ :-)

เพิ่ม Add-ons ให้ Firefox อัพโหลดวิดิโอไป Flixya ...ง่ายๆ

สำหรับตัวผมเองแล้ว นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเท่าที่เคยใช้มา ในการอัพโหลดไฟล์วิดิขึ้นสู่ Flixya จากการงม งม งม(งมหาโข่งครับ) อยู่ตั้งนาน...

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Flixya ให้ไปหาอ่านได้จาก http://www.zickr.com ครับ หรือถ้าจะให้ผมช่วยเล่าให้ฟัง(เอ้อ เขียนให้อ่านซิเน๊าะ) ก็ได้เลยครับ (แต่กลัวจะไปซ้ำกับของผู้อื่นหนะดิ)

ปกติแล้วการที่จะเอาวิดิโอมาแสดงใน Flixya นั้น ทำได้ 2 วิธี ก็คือ

  1. Upload videos โดยการอัพโหลดผ่านโปรแกรม วิดิโอไข่ เอ๊ย.. Video Egg ครับ และเจ้าโปรแกรมตัวนี้ก็ไม่ได้ Support ไฟล์วิดิโอทุกฟอร์แมท ดังนั้นมันก็เลยเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับเราในการหาโปรแกรมมาแปลงไฟล์ ให้วุ่นวายไปหมด ..ที่เห็นจะเข้ากันได้ก้มีแต่ .mp4 มั๊ง อย่างอื่นไม่แน่ใจครับ เพราะไม่เคยลอง ในบางครั้งบางเว็บที่เราดาวน์โหลด มันไม่ใช่ฟอร์แมทที่เข้ากันกับ Video Egg เช่นอาจเป็น .Flv .Gvi แบบนี้ ก็ต้องพึ่งพาโปรแกรมผวก Encoders/Converter ทั้งหลาย
  2. Embed Video เป็นการเพิ่มวิดิโอ โดยการก๊อปปี้และวาง URL หรือ embed code จากวิดิโอไซต์ต่างๆ ตัวอย่าง เช่น YouTube, Live Video, Metacafe, Daily Motion เป็นต้น ...แตวิธีการเหล่านี้ก็ทำไมได้่ง่ายๆ เช่นกัน เพราะลองทำแล้ว ปรากฏว่า ทำไม่ได้ งงงตึ๊บ!!

วิธีการยุ่งยากเราก็พับเก็บไว้ก่อน มาดูวิธีง่ายๆ หละกันครับ แอ่น แอ๊นน!!
อันดับแรก ก็ต้องติดตั้งเจ้า Add-ons กันก่อน

  1. เมื่อ Login เข้าสู่หน้า Flixya Blog ของเราแล้ว ให้เลื่อนลงมาด้านล่างสุดของหน้านั้น จะเห็นเมนู 2 กลุ่ม คือ Explore และ About ในเมนู Explore จะมีคำสั่งย่อยหนึ่ง คือ Tools ให้คลิกเลือกได้เลย

  2. ก็จะเปิดหน้า Flixya Tools ขึ้นมา ให้คลิกที่ปุ่ม Install Now ครับ


  3. จะเปิดไดอะล็อกบ็อกซ์ Software Installation ขึ้นมา ให้คลิกที่ ปุ่ม Install Now (ในไดอะล็อกบ็อกซ์) อีกครั้ง ครับ ...ดังรูป


  4. โปรแกรมจะเริ่มติดตั้งตัวเอง จนเสร็จ ...ให้คลิกที่ปุ่ม Restart Firefox ครับ


  5. จากนั้นจะให้เรายืนยันอีกครั้ง เราก็คลิก Close tabs ไปเลย

  6. เมื่อ Firefox เปิดตัวเองขึ้นมาใหม่ ทีนี้เราก็จะหาไม่เจอครับ ว่าเจ้า Add-ons ที่เราเพิ่งลงไปใหม่มันอยู่ตรงไหน ? เอ่อ แล้วทำงัยเนี่ย ไม่ต้องตกใจครับ ลองดูที่เมนู Tools ของ Firefox ครับ ...



    เราจะเห็นคำว่า Submit video to Flixya Alt+Ctrl+F นั่นหละ ...อย่าเพิ่งคลิก นะครับ (รอแป๊บ!)
  7. ทีนี้เวลาใช้หละ ต้องทำอย่างไร? ...ไม่ยากเลยครับ แค่ เปิดหน้า Flixya ของเราไว้ จะเป็นหน้าไหนก็ได้ และเปิดแท็บใหม่ขึ้นมา แล้วเข้าเว็บไซต์ผวกวิดิโอไซต์ เช่น YouTube, Live Video, Metacafe, Google Video เป็นต้น ..เมื่อเข้าไปแล้ว เราก็หาวิดิโอ(เราอาจจะหาไว้ก่อนก็ได้) ที่เราต้องการ..เสร็จแล้วให้ คลิกเลือกวิดิโอที่เราต้องการได้เลย เมื่อหน้าต่างวิดิโอที่เราเลือก เปิดแล้ว ถึงขั้นตอนสำคัญแล้ว ...คลิกที่เมนู Tools และคำสั่ง Submit video to Flixya Alt+Ctrl+F ได้เลย ครับ

    ไดอะล็อกบ็อกซ์ Submit to Flixya จะเปิดขึ้นมา โดยมี URL ของวิดิโอ และไตเติล ให้เรียบร้อย (ไตเติลเปลี่ยนได้นะครับ) ...เราก็แค่กรอกเพิ่มอีกนิดหน่อย ตรง



    Description: (คำบรรยาย คำอธิบาย) Tags: (แทรก tag ครับ) และเลือก Category: (หมวดหมู่,ประเภท) ซะ ...คลิก Submit เป็นอันเสร็จ ครับ ...รอรับได้เลยย


  8. เมื่อกลับมาเปิด หน้าเว็บ Flixya ของเรา ...เราก็จะเห็นว่า มีวิดิโอ ใหม่(ที่เราเพิ่งทำหมาดๆ) มาโผล่ และเล่นให้เราดูเป็นตัวอย่างแล้วหละครับ

แหม่! ...อะไรจะง่ายปานนั้น เห็นไหมครับ ว่าที่ว่ามาหนะ (อาจยาวไปหน่อย แต่เพื่อความเข้าที่แจ่มแจ้งของผองเพื่อน เลยต้องบ่นกันยาวหน่อย) ถ้าลองทำตามดูแล้ว มันง่ายนิดเดียว จริงๆ ... :-)

ลองดูน๊ะครับ ...

ปล. หากยังไม่รู้จักกับคุณ Flixya ไปหาอ่านได้จากบล็อก 2 แห่งนี้ ได้เลยครับ

27 สิงหาคม, 2550

Blogger เก็บรูปที่เราโพสต์ในบทความไว้หนใด..?

ใครเคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่า ...เวลาที่เราแทรกรูปในเนื้อหาบทความลงใน Blogger ของเรานั้น แล้วรูปภาพเหล่านั้นจะถูกนำไปเก็บ ณ ที่แห่งใด ทั้งที่พื้นที่เขียน Blog ของ Blogger ก็ใช่ว่าจะมีมากมายนัก

เอ๊า คิด คิด ...มันน่าจะมีที่เก็บภาพของบล็อกอย่างเดียว เป็นแน่แท้ ? คำถามในใจนี้ ก็ได้รับการตอบ เมื่อเวลาผ่านไป ...เมื่อผมได้ดาวน์โหลดโปรแกรมดู/แสดง/จัดการภาพ(เบื้องต้น)ตัวหนึ่ง ที่มีชื่อว่า Picasa ครับ ซึ่งเจ้าโปรแกรมตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ของ Google ด้วย เอามาลองติดตั้งในเครื่องคอมฯของตัวเอง และทดลองใช้ ใช้ไปใช้มา(จริงๆ ก็ใช้อยู่ที่เดิมนั่นหละ) ก็รู้ว่ามันมีคุณสมบัติในการอับโหลดภาพขึ้น Web Album ที่ชื่อว่า image ได้ด้วย ด้วยปุ่มเพียงปุ่มเดียว ดังรูปครับ

picasa-0

ซึ่งในการอับโหลดครั้งแรก โปรแกรมจะให้ลงทะเบียนครับ และให้เราเลือกว่าจะ


  • ใช้บัญชีที่มีอยู่แล้วของ Google เช่น Gmail, Google Groups, Google Alerts หรือ Froogle Shopping List หรือ
  • สร้างบัญชี(Google)ใหม่ บัดเดี๋ยวนั้น
เมื่อเข้าเว็บไซต์มาแล้ว หน้าตาของโปรแกรม ก็จะคล้ายกับภาพ ด้านล่างนี้ครับ ซึ่งเมื่อครั้งที่ผมเปิดเข้าไปครั้งแรก ก็ไปเจอกับภาพที่ตัวเองเคยโพสต์ไว้ใน Blogger มานานแล้วนั่นเอง

picasa-1


(คลิกที่ภาพ เพื่อขยาย เป็นขนาดปกติ)


ในการที่จะใช้ Picasa Web Albums ได้นั้น Google บังคับว่าเราจะต้องใช้บัญชีอีเมล์ของ Google Account เท่านั้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เราสามารถที่จะไปใช้บริการ (Services) ต่างๆ ของ Google ได้อีกหลากหลายด้วย Email address และ password เพียงอันเดียว ...พูดง่ายๆ ก็คือ แค่มี gmail เพียงบัญชีเดียว ก็สามารถนำไปใช้กับบริการของ Google ได้ทุกอย่าง แบบ All in one เลย


ทีนี้มาดูว่า เจ้า Picasa Web Albums นี่ มันเป็นอย่างไร มีความสามารถเยี่ยงไรบ้าง ...

What is Picasa Web Albums?

Picasa Web Albums เป็นฟีเจอร์(Feature ; หน้าตา ลักษณะเฉพาะ) ใหม่ล่าสุดของเจ้าโปรแกรม Picasa ออกแบบขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถโพสต์ และแชร์รูปภาพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายบน Web/Blog

ด้วยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม ต่อไปนี้ :


  • พื้นที่ฟรี สำหรับเก็บรูปภาพที่เราโพสต์ ถึง 1GB หรือจุได้ประมาณ 4,000 ภาพ ปรับปรุงใหม่ ครับ เมื่อก่อนได้น้อยกว่านี้
  • ภาพที่มีความละเอียดสูง โปรแกรมจะปรับขนาดให้พอดีอัตโนมัติ เพื่อแสดงบนพื้นที่หน้าจอได้อย่างเหมาะสม
  • การบริหาร/จัดการรูปภาพเป็นแบบ End-to-end คือได้ทั้ง Uploaded และ Download ที่ทำได้อย่างง่ายดาย
  • ไม่เฉพาะภาพอย่างเดียว ไฟล์วีดิโอ ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน

ไปลงทะเบียนเป็นเจ้าของ Web Albums ...คลิกที่นี่ ครับ http://picasaweb.google.com


ส่วนเจ้าโปรแกรม ปิคาซ่า (Picasa) ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Picasa Web Albums ตัวนี้เป็นเยี่ยงไร ...มาดูกันต่อครับ

picasa-3

What is Picasa?

Picasa คือ ซอฟต์แวร์จัดการรูปภาพฟรี ที่จะช่วยให้เราค้นหาอย่างรวดเร็ว แก้ไข และแชร์รูปภาพทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ของเรา

Picasa จะค้นหาที่อยู่ของรูปภาพของเราทั้งหมดอย่างอัตโนมัติ(แม้ว่าบางไฟล์บางโฟลเดอร์ เราอาจจะลืมไปแล้ว ว่าเคยมีอยู่) แล้วจัดไฟล์เหล่านั้นเป็นประเภท รวบรวมเข้าไว้ใน Visual folders โดยเรียงลำดับตาม ชื่อ(name) ขนาด( size) หรือวันที่(date)

เราสามารถใช้วิธีการลากแล้ววาง (drag and drop) เพื่อจัดการโฟลเดอร์ของเรา และทำ Albums เพื่อสร้างกรุฟใหม่ Picasa จะทำให้เรามั่นใจได้ว่ารูปภาพของเราจะถูกจัดให้เป็นระบบอยู่เสมอ

โดยเฉพาะการแก้ไขที่ยุ่งยาก Picasa จะทำให้มันเป็นเรื่องง่าย ๆ โดยการคลิกเพียงครั้งเดียว แต่ให้ผลลัพธ์ที่เกินคาด ในปลายนิ้วเดียว

และ Picasa ทำให้การแชร์รูปภาพของเราทำได้ในทันที โดยส่งทาง Email อับโหลดไปยัง Album online สั่งพิมพ์ภาพที่บ้าน ทำซีดีของขวัญ(gift CDs) และแม้กระทั่งโพสต์รูปขึ้นสู่ Blogger


หากสนใจที่จะใช้โปรแกรม Picasa ...หาได้จากปุ่มหน้าตาแบบนี้



ในบล็อกนี้ ครับ
สรุปแล้ว :
  • Blogger เก็บรูปที่เราโพสต์ไว้ใน Picasa Web Album ครับ รายละเอียดดังนี้ ครับ
    FTP Hostname คือ http://picasaweb.google.com/ชื่อUsername
    URL of image publishing folder คือ http://picasaweb.google.com/ชื่อUsername/ชื่อโฟลเดอร์ที่เก็บภาพ
  • เราสามารถเข้าไปใช้งานได้โดยตรง โดยพิมพ์ URL ตามข้างบนได้เลย แต่ชื่อ Username ต้องเป็นของเราเอง (Google Account) เมื่อเราใช้งาน เราสามารถที่ จะ
  • ได้ที่เก็บขนาดความจุมากถึง 1 Gb
  • สามารถฝากไฟล์รูปภาพ ฝากไฟล์ Video ได้ แล้วแชร์สู่สาธารณะชนก็ง่ายดาย
  • Uploaded หรือ Download ก็ทำได้้ง่ายๆ แบบพิกๆ
  • หรือจะใช้งานผ่านเจ้า ปิกาซ่า ก็ย่อมทำได้ ครับ
  • การใช้โปรแกรม Picasa ใช้งานเช่นเดียวกับโปรแกรมวิวภาพ จัดการภาพอย่าง ACDSee Photo Manager ครับ ซึ่งไม่แน่ว่าในวันข้างหน้า อาจเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวก็เป็นได้ ...เนื่องจากเป็นของฟรีที่ Google เค้าใจดีให้ใช้ฟรี ไม่มีคิดเงินแน่นอน

17 สิงหาคม, 2550

แสดง AdSense Ads ระหว่างเนื้อหาที่โพสต์ ใน New Blogger

ปกติการแทรก Adsense Ads ระหว่างเนื้อหาที่โพสต์จบในแต่ละเนื้อหา ใน Blogger นั้น เช่น


---------- เนื้อหาที่โพสต์ ----------

---------- Ads ----------

---------- เนื้อหาที่โพสต์ ----------

---------- Ads ----------

หรือ

---------- เนื้อหาที่โพสต์ ----------

---------- เนื้อหาที่โพสต์ ----------

---------- Ads ----------

---------- เนื้อหาที่โพสต์ ----------

---------- เนื้อหาที่โพสต์ ----------

---------- Ads ----------

...เราสามารถทำได้ (โดยการแก้โค๊ด XML ในเทมเพลตกันวุ่นวาย) ...แต่ คงยุ่งยากสักหน่อย(ไม่หน่อยหละ มากเลยแหละ)สำหรับ Blogger มือใหม่ เช่นผม ซึ่งไม่ค่อยจะรู้เรื่อง CSS เอาเสียเลย

แต่มาวันนี้ เรื่องเหล่านี้ จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ไป ด้วยความสามารถของ New Blogger (www.blogger.com)

มาดูกันว่า ทำได้อย่างไร...?

อันดับแรก เมื่อล็อกอินเข้าบล็อกมาแล้ว ในหัวข้อ Dashboard ให้คลิก เมนู รูปแบบ ในบล็อกที่เราจะแก้ไข ก็จะเข้าสู่หน้า เทมเพลต ให้...

  • ในส่วนของ Blog Posts ให้คลิกเมนู แก้ไข

  • หน้าต่าง ตั้งค่าบทความบล็อก จะเปิดขึ้นมา ให้

  • คลิกตรง Check Box : Show Ads Between Posts (ให้มีเครื่องหมายถูก) เสร็จแล้ว
  • เลื่อน Scrol bar ลงมาที่หัวข้อ Configure Inline Ads เพื่อเลือก
  • Show after every ... posts (ให้แสดง Ads หลังจากแสดงเนื้อหากี่โพสต์ เช่น แสดงเนื้อหา 1 เรื่องจบแล้ว แสดง Ads หรือแสดงเนื้อหา 2 เรื่อง 3 เรื่อง แล้วแสดง ขึ้นอยู่กับตัวเลขที่เรากำหนด) ดังรูปข้างล่าง
  • จากนั้น เลือกรูปแบบ Ads เหมือนกับที่เราเลือกในบัญชี Adsense ครับ (แนะนำ ...ไม่ควรจะกว้างเกินส่วนที่แสดงเนื้อหาของบล็อกครับ)
  • เลือกสี ตามใจชอบ มีตัวอย่างให้ดู ...ด้านล่าง

  • เมื่อเลือก และปรับแต่งจนพอใจแล้ว ...ก็คลิกที่ปุ่ม บันทึกการเปลี่ยนแปลง ครับ

  • ลอง Preview ให้แสดงตัวอย่างดู ก็จะได้ดังภาพ ครับ

---------------------------------------------------------------

ปล. การจะใช้ Adsense ผ่าน Blogger นั้น จะยังใช้ไม่ได้ในครั้งแรก Blogger จะส่งข้อมูลแจ้งไปยัง Adsense ว่าเราจะทำการใช้ Adsense ผ่าน Blogger ...แล้ว Adsense จะส่งเมล์มาถึงเรา เพื่อให้เรา Verify กลับไปว่า เรายินดีที่จะให้ Blogger เข้าถึง ad code และจัดการกับข้อมูลใน AdSense account ของเรา โดย Adsense จะส่งเมล์ลักษณะนี้มาหาเรา ดังตัวอย่าง...

Hello,

You are receiving this email because you recently requested access to use
AdSense through blogger.com. In order to use AdSense features through
blogger.com, you'll need to give the site access to the ad code and
performance information in your AdSense account. To do so, please

follow this link:

https://www.google.com/adsense/a?u=9097845&d=5705246.

The Google AdSense Team


เมื่อเราคลิกตามลิงค์ไป ก็จะถือว่าเรายอมรับ ...และเราก็จะสามารถใช้ Adsense ผ่าน Blogger ได้(ทุกตัว) ครับ
---------------------------------------------------------------
บทความนี้ คงจะพอเป็นประโยชน์สำหรับ ผู้ใช้ Blogspot ทำ Adsense ไม่มากก็น้อย ครับ ...ถือว่าเป็นเศษเสี้ยวของความรู้ก็แล้วกันครับ :-)
Technorati Tags: , ,

13 สิงหาคม, 2550

My Opera ...ทางเลือกสำหรับบล็อกเกอร์มือใหม่ (ภาคต่อ)

My Opera ...ทางเลือกสำหรับบล็อกเกอร์มือใหม่ (ภาคแรก)


จากตอนที่แล้ว มาพูดถึง My Opera ต่อ ซึ่งเป็น Blog Host อีกที่หนึ่งที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่กำลังหัดทำ และต้องการความง่าย ที่ไม่ต้องปรับแต่งอะไรมากนักด้วยตัวเอง ก็สามารถออกมาเ็ป็น Blog ที่สามารถเสนอเนื้อหา เรื่องราวที่ต้องการได้แล้ว

มารู้จัก และดูคุณสมบัติคร่าวๆ ของ My Opera ก่อน
  • My Opera เป็นบริการบล็อกฟรีของเบราว์เซอร์ Opera.com
  • ซึ่งตัวบล็อกจะคล้ายๆ กับไดอารีมากกว่า คือเน้นเกี่ยวกับแชร์รูปภาพ (Photo Sharing) และเรื่องราวส่วนตัว ...แต่ก็ไม่แน่ครับ เพราะมันอยู่ที่เราจะนำไปใช้มากกว่า
  • เป็น Blog Community ที่น่าสนใจอีกที่หนึ่ง ณ เวลาปัจจุบัน(ที่ผมเขียนอยู่นี้) มีสมาชิกเกือบล้านคนเข้าไปแล้ว (948630 members)
  • ได้เนื้อที่ทำบล็อกทั้งหมด 300 Mb
  • การจัดการบล็อก ก็ทำได้ด้วยเครื่องมือ ที่เป็นรูปภาพ ไอคอน ที่เข้าใจได้ง่ายๆ
  • ไม่มี ad ให้กวนตา กวนใจ ...นอกจากของ Opera ที่ให้ดาวน์โหลดเบราว์เซอร์ Opera เอง (แหะ แหะ!)
มาดูความสามารถและคุณสมบัติของ Blog ที่เขียนด้วย My Opera ครับ ว่าเป็นเยี่ยงไรบ้าง

Free blog service, with powerful features.

  1. Full RSS/Atom Syndication support
  2. Full HTML and BBCode support
  3. Customizable look and feel
  4. Upload your own images and attachments (อันนี้ เอาไฟล์ต่างๆ ไปฝากได้ด้วยน๊ะ)
  5. Limit posts to your specified friends only
  6. Mobile friendly blogs
  7. And much more!.. smilie

อา ...ทีนีมา้วิจารณ์เป็นข้อๆ กัน เท่าที่ลองใช้ดู
  1. ข้อนี้ก็น่าจะโอเคนะ
  2. มันไม่แสดงโค๊ด HTML ให้เห็นแบบ Blogspot หนะ ก็เลยไม่รู้ว่าจะไปแก้ Html ได้อย่างไร
  3. อันนี้ก็เปลียนธีม (Theme) เปลี่ยน/เพิ่มเมนู หรือส่วนประกอบ(เท่าทีมีให้)ได้ แต่ทำได้น้อยกว่า Blogspot
  4. ข้อนี้ สามารถอับโหลดรูปภาพหรือ ขึ้นไปก่อนแล้วนำไปแทรกในบล็อกทีหลังได้ หรือจะเอาไฟล์ต่างๆ ไปฝากไว้ก็ได้)
  5. ข้อนี้คุณสมบัติทั่วๆ ไป
  6. เป็นบล็อกที่เป็นมิตรกับมือถือ อืออ ...ก็สามารถอับโหลดบล็อกผ่านมือถือ หรือจะดูบล็อกผ่านมือถือก็ได้มั๊ง
  7. และอื่นๆ สำหรับข้อนี้ อยากรู้ต้องลองดู
เท่าที่ลองสมัคร และใช้ดู ...ผลที่ได้ก็ถือว่าโอเค ใช้ได้ดีระดับหนึ่งทีเดียว เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือมือเก่า(ก็ได้) ที่ต้องการความเรียบง่าย ..ไม่ต้อง ...อะไรมากมาย
-----------------------------------------------------------
ข้อสังเกต ที่ได้จากการใช้งาน
  • เริ่มทำ Blog เมื่อเดือนกรกฎาคม 2007 นี้เอง ...แต่
  • คนเข้าดูปาเข้าไป ตั้ง 4366 คน แล้ว (โฮ๊ะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ) ...ไม่อยากจะเชื่อ!
  • วัดด้วยบล็อก น้ำผลไม้ (Blog Juice Calculator) ก็ได้แค่ 3.0 เองครับ (แหะ แหะ)

  • เอ๊! ทำไมเจอแต่ชาวเวียตนาม(ห ว่า) เยอะจริงๆ แต่ชาวต่างชาติอื่นๆ ก็มีน๊ะ
  • การที่บล็อกให้ใส่ Tags ในเนื้อหา ทำให้เนื้อหาจะได้รับการค้นหาได้ง่ายขึ้น
  • สรุปแล้ว ...ดีครับ ดี!
Opera.com แต่จะดีได้แค่ไหน ก็ต้องลองใช้ดูเอง หรือหาความรู้จากผู้ที่ใช้มาก่อนครับ ... :-)

11 สิงหาคม, 2550

My Opera ...ทางเลือกสำหรับบล็อกเกอร์มือใหม่

สำหรับ บล็อกเกอร์มือใหม่ ตอนที่เริ่มจะทำ Blog ครั้งแรก มีปัญหามากมายให้ได้คิด เป็นต้นว่า


  • ไม่เข้าใจหนะว่ามันเป็นอย่างไร จะต้องเขียนอย่างไร เหมือนทำเว็บไซต์หรือเปล่า
  • จะตกแต่งอย่างไร จัดหน้าอย่างไร ยากไหม
  • ไม่เคยเรียนภาษา HTML มาก่อนด้วยสิ เวลาต้องปรับแต่งคงยากน่าดู
  • ใช้อะไรเขียนหละเนี่ย ...
  • ฯลฯ
แต่พอได้ศึกษาในเบื้องต้นแล้ว ก็พอจะทราบว่าต้องทำอย่างไร เช่น
  • ไม่ต้องเขียนแบบเว็บไซต์
  • ทำง่าย เข้าใจง่าย เรียนรู้เองได้ มีแหล่งที่จะให้ค้นหาข้อมูลมากมาย
  • อาจไม่ต้องรู้ Html ก็ได้ (แต่รู้บ้างนิดหน่อย ก็น่าจะดี)
  • ไม่ต้องหาทีฝาก (Web Hosting)
  • เขียน ออกแบบบนหน้าจอเลย แบบออนไลน์
  • เขียนเสร็จก็เผยแพร่ได้เลย
  • ฯลฯ
คิดว่าไม่มีปัญหาแล้วเชียว แต่ว่า ก็ยังมีข้อไม่แน่ใจอีกนิดหนึ่ง ก็คือ การเลือกว่าจะเขียนบล็อกกับเจ้าไหนดี? (Blog host) เพราะมีอยู่มากมายซะเหลือเกิน ทั้งของไทยและของต่างประเทศ
ตามความเห็นของผมเอง หลังจากได้สังเกตดู ด้วยการลองผิดลองถูก(ถูกมั่งไม่ถูกมั่ง)ไปแล้ว ก็ได้รู้ว่า...
หากคิดจะทำบล็อก ลองตั้งเป้าหมาย...ให้ชัดว่า "จะทำให้ใครอ่านดี" ระหว่าง
  • ทำให้คนไทยอ่าน(คนไทยเท่านั้น) ควรจะเลือก Blog Host ที่เป็นของไทยครับ เป็นต้นว่า
    http://www.exteen.com เจ้านี้ติดอันดับคนไทยเข้าใช้มากที่สุดแห่งหนึ่งทีเดียว โดยเฉพาะวัยรุ่น ครับ
    http://www.bloggang.com บริการบล็อกของพันทิปเค้า ชุมชนชาวบล็อกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
    และที่อื่นๆ อีกมากมาย ลองๆ สืบหาดู ที่ยกตัวอย่างมานี้ เห็นว่า เป็นที่ที่คนไทยเข้าเยอะจริงๆ ดังนั้น Traffic ที่มาจากคนไทยไม่ต้องพูดถึงเลย อยู่ที่ไทย เข้าง่าย(โหลดไว) คนไทยย่อมเห็นก่อนแน่นอน ...แต่ถ้า
  • จะทำให้คนต่างชาติอ่าน ก็ควรจะเลือก Blog Host ที่เป็นของต่างชาติดีที่สุด เหตุผลตรงข้ามกับข้างบน ตัวอย่างเช่น Blog ;
    http://www.blogger.com บริการหนึ่งของ Google การันตีคุณภาพด้วยชื่อได้ ยังไม่นับรางวัลที่ 1 บริการบล็อกประจำปี 2006 ด้วยนะเออ ...แน๊ะเอากับเค้าซิ
    http://www.wordpress.com เค้าบอกทำง่ายและสวยงาม มีธีมให้เลือกใช้มากมาย เขียนด้วย PHP (อันนี้ต้องลองดู)
ที่ชวนให้คิดเช่นนี้ก็เพราะ เคยทำบล็อกด้วย Blog Host ต่างประเทศ แล้ว คนอ่านที่เป็นคนไทยช่างน้อยเหลือเกิน ขนาดบล็อกที่ทำเป็นภาษาไทยแท้ๆ และมีชาวต่างประเทศหลงเข้ามาเป็นประจำ ซึ่งไม่ใช่ว่าเราจะไม่ต้องการให้เค้าเข้ามา ...แต่เรารู้สึกสงสารเค้าจัง ที่เข้ามาแล้ว อาจไม่ได้ในสิ่งที่เค้าต้องการ เช่น การที่เค้าใช้คำค้น หรือ Keyword ที่เป็นภาษาอังกฤษค้นหา
ตัวอย่าง คำที่ใช้ค้นหา ที่เจอในบล็อกเรา

Search keywords List

Searched keyword Visits %

images 6 21.43%

blog 4 14.29%

desktop 2 7.14%

blog exteen 1 3.57%

blog* 1 3.57%

แล้วปรากฤว่าเค้ามาเจอเช่นกัน ที่ Blog ของเรา ...คือเจอหัวข้อ หรือคำที่หาที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่เนื้อหาเป็นภาษาไทย เค้าคงจะไม่รู้เรื่องแน่นอน เพราะเป็นภาษาที่เค้าไม่เข้าใจ ...น่าเห็นใจเค้ามากๆ ครับ แต่็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ในเมื่อเค้าค้นหาเจอแล้วนี่ จะกันเค้าก็ไม่ได้นี่ ดูตัวอย่างจากตารางนี้เลยครับ
Referrer sites List
URL Visits %
www.google.com 65 59.09%
www.keng.com/bloggertalk/index.php 12 10.91%
zickr.com/software/windows-live-writer 9 8.18%
www.zickr.com 4 3.64%
napatsa-06.spaces.live.com 3 2.73%
flyrocket.com/index.php 2 1.82%
blog.se-ed.net/wp-admin 1 0.91%
my.opera.com/yokey/blog 1 0.91%
search.msn.com 1 0.91%

ว่าส่วนใหญ่่เค้ามาจากไหนกันมั่ง ...เอาหละครับสำหรับวันนี้ ผมขอพักไว้เพียงแค่นี้ก่อนครับ ชักง่วงนอนแล้ว เลยขอพูดเป็นภาคต่อแล้วกันนะครับ คืนนี้ลาก่อนครับ :-)

Related Posts by LinkWithin

Related Posts with Thumbnails